สืบพุนพินตามรวบ 24 ชม. หนุ่มแสบวิ่งราวรถจยย.ต่อหน้าต่อตาเจ้าของรถพร้อมเงินใต้เบาะ 5 หมื่น
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 13 มี.ค.68 ที่สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.พุนพิน พ.ต.ท.ชุมพล คุ้มภิรมย์ รอง ผกก.สส.สภ.พุนพิน พ.ต.ท.มานิตย์ ทองชั่ง สว.สส.สภ.พุนพิน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.พุนพิน ร่วมกันจับกุมตัว นายพรอรุณ หรือบอย ชอุ่มผล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/1 ต.ท่านา อ.กะปง จ.พังงา ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ พร้อมด้วยของกลาง,กระเป๋าสตางค์แบบมีซิปรูดเปิดปิดสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ,บัตรประจำตัวประชาชนของ และเอกสารอื่นๆของน.ส.มาลี ทองปาน ,เงินสด จำนวน 39,800 บาท และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกุปปี้ สีฟ้า ทะเบียน 1กภ 2929 สุราษฎร์ธานี จำนวน 1 คัน
พ.ต.อ.นิพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 16.50 น.วันที่ 12 มี.ค. 2568 น.ส.มาลี ทองปาน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 257/6 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ผู้เสียหาเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน ว่าขณะที่จอดรถจักรยานยนต์ของตนเองไว้ที่หน้าบ้านและได้ลงไปเปิดประตูบ้านได้มีคนร้ายขับขี่รถของตนเองซึ่งใต้เบาะรถมีเวินสดอยู่ในกระเป๋าสตางค์จำนวน 5 หมื่นบาท หลบหนีไปด้วย และพยายามวิ่งไล่ตามแต่ตามไม่ทัน จึงรีบเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายดังกล่าว
หลังจากรับแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่เกิดเหตุ พบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถคันดังกล่าวมุ่งหน้าไปทางพื้นที่เมืองสุราษฎร์ธานี และคนร้ายที่ก่อเหตุซึ่งปรากฎในภาพกล้องวงจรปิดมีรูปพรรณสันฐานตรงกันกับ นายพรอรุณ จึงได้ติดตามไปยังบ้านที่พักอาศัย ปรากฏว่าไม่พบตัว จึงได้ออกสืบสวนหาข่าว จนเมื่อวันที่ 13 มี.ค.เวลา 18.30 น. ได้พบนายพรอรุณ ผู้ต้องหา เดินอยู่ริมถนนสายท่าล้อน – กม.0 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้จับกุมตัวเอาไว้ได้
จากการสอบถามนายพรอรุณ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์รถคันดังกล่าวพร้อมกับเงินสดที่อยู่ใต้เบาะของผู้เสียหายจริง และได้ใช้เงินไปแล้วบ้างส่วน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นตัวผู้ต้องหาพบกระเป๋าสตางค์ มีบัตรสำคัญทางราชการต่างๆของผู้เสียหาย และมีเงินสดเหลืออยู่ จำนวน 39,800 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ผู้ต้องหาสารภาพว่าได้นำไปทิ้งไว้ที่บริเวณริมถนนสาย 41 ขาขึ้น กทม. ม.1 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่จึงได้ไปนำกลับมาเป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน ดำเนินคดีในข้อหา “วิ่งราวทรัพย์หรือรับของโจร” ต่อไป
///////
อ่านแล้ว570 times!
