อยุธยาไม่สิ้นคนดี หนุ่มพลดีเก็บเงินครึ่งหมื่นได้หน้าร้านชำส่งให้เจ้าของร้านชำ ตามหาคืนเจ้าของ เจ้าของเงินสุดดีใจได้คืนเพราะเป็นเงินลงทุนประกอบอาชีพ

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีพลเมืองดีเก็บเงินครึ่งหมื่นได้ หน้าร้านขายของชำในชุมชน หมู่ที่ 6 ตำบลสสวนพริก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบกับ นางสาว ธนรรฆ ( อ่านว่า ธะ – นัด ) สุขอุดม อายุ 43 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ชื่อ ร้านรวมทรัพย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลสวนพริก พร้อมเปิดภาพกล้องวงจรปิดให้ผู้สื่อข่าวดู



กล้องบันทึกเหตุการณ์ เมื่อเวลา 08.40 น. วันนี้ มีรถกระบะ 2 สามีภรรยามาส่งน้ำดื่มให้กับที่ร้าน จังหวะออกจากร้าน ภรรยาได้ลงจากรถเพื่อมาดูรถให้สามี ถอยหลังออก ซึ่งเป็นจังหวะที่ทำเงินหล่นไว้บนพื้นหน้าร้าน ก่อนขับออกไป จนเวลา 08.48 น.หนุ่มพลเมืองดีซึ่งมาซื้อถ่าน ที่ร้านเดินนำถุงถ่านที่ซื้อไปไว้ที่รถหันมาเห็นเงินตกอยู่ จึงหยิบมาให้เจ้าของร้านเพื่อตามหาเจ้าของ ( เงินตกอยู่หน้ารถตอนถอยออกไป เวลา 08.40.14 น. )
นางสาว ธนรรฆ เจ้าของร้านเล่าว่า ตอนเช้าวันนี้น้องที่เจอเห็นเงินตกอยู่จึงหยิบมาให้ตนซึ้งเป็นเจ้าของร้านบอกว่าใครทำเงินตกอยู่ เขาก็หยิบมาให้ ซึ่งตอนแรกตนเองก็ไม่รู้ของใครจึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน ซึ่งพบว่าก่อนที่น้องพลเมืองดีจะเจอ มีคนขับรถส่งของ ส่งน้ำดื่ม มาส่งที่ร้าน ซึ่งตอนแรกยังไม่ได้โทรไปสอบถาม ตอนนี้ได้โทรไปสอบถามเขาแล้ว เขาก็รู้สึกดีใจ เพราะเป็นเงินจำนวนมาก เพราะตนเองคิดว่าถ้าเงินจำนวนนี้หายไปเขาคงจะเดือดร้อนเพราะมีอาชีพค้าขายเหมือนกัน พอรู้ว่าเจ้าของคือใครก็ดีใจกับเขา เพราะก่อนหน้านี้มีคนมาที่ร้านถ้าเห็นก่อนก็ไม่รู้จะคืนไม่คืนเหมือนน้องพลเมืองดีคนนี้ เพราะน้องคนนี้เป็นลูกค้ามาซื้อของประจำ
ต่อมา นาย ธนสิทธิ์ วิชาดี อายุ 49 ปี คนส่งน้ำพอทราบก็รีบเดินทางมาที่ร้านทันที พร้อมกล่าว่าจำนวนเงินเป็นปึกมัดไว้ มีแบงค์พันแบงค์ห้าร้อยแบงค์ร้อย รวมจำนวน 5,000 บาท ทางร้านจึงคืนให้กับเจ้าของ นาย ธนสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า มารู้ว่าหายตอนที่ส่งของที่ร้านนี้เสร็จ ตนและภรรยาไปนั่งกินโจ๊ก ยังคิดอยู่ว่าเราไปทำหล่นที่ไหน กำลังพยายามนึก มาดูในรถก็ไม่มี เพราะยังคิดอยู่ว่าถ้าหายไปแล้วก็ไม่รู้จะไปหาตรงไหน ซึ่งจุดที่มาส่งของก็มีพื้นที่ไม่กว้างมาก จะมีช่วงที่แฟนลงจากรถเพื่อดูรถโบกรถให้ แล้วก็ไปนั่งกินโจ๊ก



ซึ่งเงินตรงนี้ถ้าไม่ได้คืน จะเดือดร้อนอย่างแรง เพราะเป็นทุนของเรา ต้องขอบคุณน้องเจ้าของร้านมาก ตอนแรกแฟนเครียดมาก เพราะเขาเป็นคนถือตัง ตอนที่ร้านโทรไป ก็รู้สึกโล่ง เราก็บอกตัวเลขที่บอกไว้ ซึ่งตอนนี้แฟนรู้สึกเครียด ถึงกับปิดร้านไม่เปิด แต่ตอนนี้รู้แล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะตอนแรกเราก็ไม่กล้าโทรมาถาม เพราะเรามาส่งของร้านเขา เราก็กลัวว่าจะมาสร้างภาระหนักใจให้เขา เพราะถ้าไม่ได้ตกที่นี่ ก็จะเสียเวลาเขา
ทั้งนี้ทั้งเจ้าของร้าน เจ้าของเงิน ได้เดินทางไปหาพลเมืองดี ซึ่งเป็นร้าน หมูหัน ชื่อร้าน หมูหันอะตอม ซึ่งอยู่ห่างไปไปประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลสวนพริก พบกับนาย วชิรวิทย์ เตชรัตนวรกุล อายุ 25 ปี กำลังทำงานอยู่ ด้าน นาย ธนสิทธิ์ รีบเดินเข้าไปขอบคุณอย่างมาก ถ้าไม่ได้น้องพี่คงแย่



นาย วชิรวิทย์ พลเมืองดี เล่าว่า ตอนนั้นตนไปซื้อถ่านที่ร้านพี่เขาเพื่อมาหันหมู พอยกขึ้นท้ายรถหันมาเจอเงินตกอยู่ และก็หยิบไปให้เจ้าของร้าน ซึ่งคิดว่าเงินนั้นถ้าเจ้าของเขาคงเดือดร้อนถ้าหายไป เพราะไม่ใช่เงินของเรา ก็ดีใจแทนพี่เขาที่ได้คืน เพราะถ้าเป็นเรา เงิน 100 – 200 เราก็ใจเสียแล้ว ก็ดีใจกับพี่เขาด้วย
อ่านแล้ว402 times!