“รองนายกฯและรมว.กลาโหม ” เร่งให้ทร.ประสาน ช่วยเหลือคนไทย ทั้ง 31ลูกเรือกลับภาย 1-2วัน
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.67 พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า สถานการณ์เรือประมงไทยที่ถูกเรือรบเมียนมาร์จับกุมนั้น เกิดขึ้นเนื่องจากมีกลุ่มเรือประมงประมาณ 15 ลำ เข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำประเทศเมียนมาร์ประมาณ 4- 5.7 ไมล์
จากการตรวจสอบขั้นต้นกับทัพเรือภาค3ทราบว่าได้ใช้ระบบติดตามเรือประมงทราบว่ามีเรือประมงไทยถูกยิงจำนวน 2 ลำ จึงได้จัดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง(เรือต.274 )เข้าทำการช่วยเหลือเร่งด่วนโดยเฉพาะลูกเรือที่ได้กระโดดน้ำหนี จากการช่วยเหลือขั้นสามารถช่วยเหลือได้เป็นส่วนใหญ่ แต่มีลูกเรือหายไปจำนวน 3 คน ประกอบด้วยลูกเรือชาวไทย 1 คนชาวพม่า 2 คน ซึ่งภายหลังได้พบลูกเรือทั้งหมดแล้วแต่ช่างเครื่องชาวไทยเสียชีวิตจากการสำลักน้ำ ในส่วนเรืออีก1ลำทราบชื่อเรือ ส.เจริญชัย 8 พร้อมลูกเรือกว่า 31 คน ถูกทางเมียนมาจับกุมไปยังเกาะญาติเชือก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จึงได้สั่งการให้กองทัพเรือเร่งดำเนินการให้ศูนย์ประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมาร์ประสานให้นำเรือพร้อมลูกเรือที่ถูกเมียนมาควบคุมไว้ ณ ท่าเรือเกาะญาติเชือก(ฝั่งเมียนมาร์)กลับมายังฝั่งไทยโดยเร็วที่สุด
จากการประสานงานทราบว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการเจรจาผ่านคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) เพื่อเจรจาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและให้การช่วยเหลือเรือประมงและลูกเรือที่ถูกจับกุม
ภายหลังจากนี้จะต้องมีการประท้วงตามช่องทางของกระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น(TBC)ว่าการกระทำในครั้งนี้รุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดย ผบ.ทร.ได้สั่งการให้ทัพเรือภาค3จัดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง เรือต.274 และเรือต.993 ลาดตระเวณเฝ้าตรวจภายในน่านน้ำของไทย และให้ศูนย์อำนวยรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล(ศรชล)ประสานกับเรือประมงให้มีความระมัดระวังในการเดินเรือเพื่อให้เกิดความปลอดภัย
ซึ่งกระทรวงกลาโหมพร้อมจะรักษาอธิปไตยและปกป้องน่านน้ำของไทยอย่างเต็มกำลัง
อ่านแล้ว164 times!