ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับรถพ่วงถ่ายเอกสารแผ่นป้ายภาษีติดหน้ารถ ตบตาเจ้าหน้าที่

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.ณัฐพล เทียนแก้ว รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ด.ต.จิตรธวัช สุวรรณโชติ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ว่าที่ ร.ต.ต.กุมุท เกสร รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., จ.ส.ต.ศรายุทธ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

ได้ร่วมกันจับกุม นายสุภาพฯ อายุ 47 ปี ในความผิดฐาน “ปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม, ใช้เครื่องหมายอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการออกให้สำหรับรถคันหนึ่งกับรถอีกคันหนึ่ง และใช้รถในการขนส่งที่มิได้เสียภาษีถูกต้อง”

พร้อมด้วยของกลาง
- รถบรรทุกหัวลาก (ตัวแม่) ไม่ประจำทาง ชนิด 10 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 72-XXX3 สมุทรปราการ
- รถกึ่งพ่วง (ตัวลูก) ชนิด 3 เพลา 6 ล้อ ยาง 12 เส้น สี ขาว ทะเบียน 72-XXX2 นครปฐม
- แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี (ฉบับจริงของรถคันอื่น) เลขทะเบียน 72-XXX4 สมุทรปราการ 1 ใบ
- แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี (ฉบับปลอมโดยการถ่ายเอกสารสี) เลขทะเบียน 72-XXX4 สมุทรปราการ 1 ใบ
สถานที่จับกุม ถนนพระราม 2 กม.20 ขาออก กทม. ต.คอกกระบือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 - พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.67 ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.2 (นครปฐม) ได้ออกตรวจปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดกฎหมายบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม2) มาถึง กม.20 ขาออก กทม. ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้พบรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว พร้อมบรรทุกตู้ส่งสินค้าขับขี่มาบนถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบหมายข้อมูลเลขทะเบียนรถบรรทุกหัวลาก (ตัวแม่) ทะเบียน 72-XXX3 สมุทรปราการ พบว่ารถคันดังกล่าว มีสถานะ “ระงับใช้รถ” และวันสิ้นสุดภาษีตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 (ภาษีขาดมาแล้วเกือบ 4 ปี) จากนั้นได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า รถกึ่งพ่วง (ตัวลูก) ทะเบียน 72-XXX2 นครปฐม พบว่ารถคันดังกล่าว มีสถานะ “ระงับใช้รถ” และวันสิ้นสุดภาษีตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 (ภาษีขาดมาแล้วเกือบ 5 ปี)
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมจึงส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวจอดชิดขอบทางเดินรถด้านซ้ายในลักษณะปลอดภัย และเข้าแสดงตัวขอทำการตรวจสอบพบนายสุภาพ เป็นผู้ขับขี่ และได้ทำการตรวจสอบป้ายภาษีซึ่งติดอยู่กระจกด้านหน้ารถบริเวณกึ่งกลางกระจก พบว่าป้ายภาษีทั้ง 2 ใบ ไม่ตรงกับตัวป้ายทะเบียนรถที่ขับขี่มา ซึ่งป้ายภาษีที่ 1 ระบุหมายเลขทะเบียน 72-XXX4 สมุทรปราการ ตรวจสอบพบว่าเป็นฉบับจริง แต่เป็นของรถบรรทุกอีกคันหนึ่ง และแผ่นป้ายภาษีที่ 2 ระบุหมายเลขทะเบียน 72-XXX4 สมุทรปราการ เช่นเดียวกัน แต่เป็นการถ่ายเอกสารสีทำปลอมขึ้นมา ซึ่งป้ายภาษีดังกล่าวทั้ง 2 ไม่ตรงกับทะเบียนรถที่ขับขี่มา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม, ใช้เครื่องหมายอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการออกให้สำหรับรถคันหนึ่งกับรถอีกคัน, ใช้รถในการขนส่งที่มิได้เสียภาษีถูกต้อง” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การเบื้องต้น นายสุภาพฯ ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวจริงและไม่ได้ชำระภาษีฯ ซึ่งตนเป็นลูกจ้างขับรถพ่วงส่งสินค้าให้กับนายนเรศฯ ซึ่งเป็นเจ้าของรถและนายจ้าง ซึ่งนายจ้างเป็นผู้แผ่นป้ายปลอมขึ้นมา และนำมาติดไว้หน้ารถ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ เนื่องจากทั้งรถบรรทุกหัวลาก (ตัวแม่) และรถกึ่งพ่วง (ตัวลูก) ถูกปล่อยให้ภาษีขาดมานาน จนถูกระงับการใช้รถ
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากประชาสัมพันธ์เตือนภัย สำหรับการถ่ายเอกสารสีแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีรถคันหนึ่ง แล้วนำไปติดกับรถอีกคันหนึ่ง มีความผิดฐาน”ปลอมเอกสารราชการ” อัตราโทษ จำคุกตั้งแต่ 6 ดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ดังนั้น หากภาษีรถขาด ไม่ควรที่จะไปถ่ายเอกสารสีรถคันอื่นมาติด นอกจากนี้เมื่อนำรถที่ติดแผ่นป้ายภาษีปลอมไปใช้ ผู้ขับขี่ย่อมมีความผิดฐาน “ใช้เอกสารราชการปลอม” ซึ่งมีอัตราโทษเท่ากับปลอมเอกสารราชการ
อ่านแล้ว168 times!