หวังพรางตาตีเนียนช่วงเดินทาง หนุ่มเมียนมาขนแรงงานต่างด้าวนั่งรถตู้ ถูกตำรวจทางหลวงจับได้คอตกพร้อมหลักฐานคาเบาะ

เมื่อเวลา 05.00 น.วัน 10 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.๑ บก.ทล.(อยุธยา)ปฏิบัตหน้าที่ออกตรวจเส้นทางถนนสายเอเซีย ขาเข้าได้พบ รถยนต์ตู้ ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 นฉ 3495 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง เรียกรถยนต์ตู้คันดังกล่าวให้หยุดจอด


จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.45 – 46 ทล.32 ถนนสายเอเชีย ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ มีนาย SAW PHA DI KO อายุ 37 ปี สัญชาติ เมียนมา ( เป็นผู้ขับขี่ ) พูดและฟังภาษาไทยได้ภายในรถตู้ยังพบผู้โดยสาร 5 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สถานีตำรวจภูธรมหาราช อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา
พบว่าทั้ง 5 ราย ที่โดยสารมากับรถยนต์ตู้ เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง

จากการสอบถาม นาย SAWPHA DI KO ( ซอผา ดิเกาะ )อายุ 37 ปี สัญชาติ เมียนมา (เป็นผู้ขับขี่) มีพาสปอร์ต ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 01.00 น.ได้รับการประสานจากหญิงชาวเมียนมา ชื่อ Nu Ning Mu Zar ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 5 คน ที่บริเวณริมป่าข้างทาง ทล.11 จ.นครสวรรค์ เพื่อไปส่งที่ปลายทาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยได้ค่าจ้าง 5,000 บาท/ครั้ง และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 5 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆ


สอบถามแรงงานต่างด้าว ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวนประมาณ 10,000 – 15,000 บาท/คน

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา ชื่อ SAW PHA DI KO อายุ 37 ปี สัญชาติ เมียนมา คนขับ ข้อหา “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ” ส่วนแรงงาน ทั้งหมดในข้อกล่าวหา “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมหาราช อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่าช่วงเทศกาลเดินทางเทศกาลสงกรานต์ มีการเดินทางของพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ถึงนำรถตู้ขนแรงงานต่างด้าว หวังพรางตาเจ้าหน้าที่ปะปนกับการเดินทางให้มองเป็นรถตู้ทั่วไปหวังไม่ให้ต้องสงสัยแต่ก็ถูกจับกุมได้ในที่สุด
อ่านแล้ว700 times!