นนทบุรี วงจรปิดนาทีชีวิต ดร.แก้วช่วยเหลือ 2 พ่อลูกถูกรถเมล์พุ่งชนเจ็บสาหัส 5 เดือน คู่กรณีไม่เหลียวแล
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 20 ม.ค. 67 ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ประธานกต.ตร.จังหวัดนนทบุรี เดินทางเข้าช่วยเหลือนายพงษธร สิงโตทอง อายุ 57 ปี (อาชีพรับจ้าง) และ ด.ญ.ศศิภา สิงโตทอง อายุ 11 ปี 2 พ่อลูกที่อาศัยอยู่ภายในซ.ติวานนท์ 45 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังถูกรถเมล์สาย 117 กทม.2-ท่าน้ำนนท์ ขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนอาการสาหัสทั้งพ่อและลูก ผ่านมา 5 เดือน คดีไม่คืบ คู่กรณีเยียวยาแค่ 10,000 บาท ไม่เคยมาเหลียวแลต้องนำทรัพย์สินที่มีไปขายเพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาล ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณแยกสตรีนนท์ จับภาพ 2 พ่อลูกขี่รถจยย.มาตามเส้นทางตามปกติระหว่างกำลังชะลอความเร็วรถจยย. รถเมล์สาย 117 ขับมาด้วยความเร็วชนท้ายรถจยย.อย่างแรงทำให้ 2 พ่อลูกกระเด็นไปชนท้ายรถยนต์หมดสติ ทั้ง 2 คนอาการสาหัส โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 66 เวลา 18.30 น. ที่ผ่านมา ขณะที่นายพงษธร ขี่รถจยย.รับด.ญ.ศศิภา (ลูกสาว) ซ้อนท้ายกลับมาจากโรงเรียนสุโขทัย เพื่อจะกลับบ้านพอมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณแยกร.ร.สตรีนนท์
ปากซอยพิบูลสงคราม 1 ถนนพิบูลสงคราม ซึ่งเป็นจุดที่รถติด ต่างคนต่างชะลอความเร็วรถ ซึ่งในขณะเดียวกันได้มีรถเมล์ขับมาด้านหลังด้วยความเร็ว คนขับเป็นผู้หญิงได้พุ่งชนเข้าที่รถจยย.อย่างแรง ทำให้ด.ญ.ศศิภา กระเด็นตกจากรถ จยย.นอนคว่ำหน้าหมดสติในที่เกิดเหตุ ส่วนนายพงษธร ขาข้างขวาติดอยู่กับล้อรถ ทำให้กระดูกขาท่อนล่างแตกและขาท่อนบนเนื้อฉีกเป็นแผลลึก เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือนำตัวด.ญ.ศศิภา ส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า พบว่ากระดูกไหปลาร้าหักกระโหลกศีรษะร้าว นอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนาน 10 วัน ส่วนนายพงษธร พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระพยาบาล กระดูกขาแตก ต้องผ่าตัดเอาเส้นเลือดขาข้างซ้ายมาใส่ข้างขวาและได้ผ่าตัดเอาเนื้อและหนังขาซ้ายมาใส่ขาขาวเพราะเนื้อและหนังเปิดหมด นอนอยู่โรงพยาบาล นาน 66 วัน เหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมานานกว่า 5 เดือน ได้รับเงินเยียวยาจากรถเมล์ ขสมก.เพียง 10,000 บาท ด.ญ.ศศิภา ต้องหยุดเรียนตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุ ส่วนนายพงษธรต้องใช้วอคเกอร์ 4 ขาช่วยพยุงเดิน ทำให้ขาดรายได้ ต้องเอารถจยย.ไปเข้าไฟแนนซ์และเอาสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ ที่ทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิตไปขายเพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายหาหมอและใช้จ่ายในแต่ละวัน
น.ส.ศศิธร สิงห์โตทอง อายุ 26 ปี อาชีพฟรีแลนซ์ (ลูกสาวผู้บาดเจ็บ) กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องได้มีการเจรจากับทางประกัน มีข้อสรุปว่าจะยื่นเรื่องให้คุณพ่อเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ส่วนน้องสาว 15,000 บาท ซึ่งในระยะ 5 เดือน คิดว่าไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไป เพราะไม่รู้ว่าพ่อจะสามารถกลับไปขับวินมอเตอร์ไซค์หรือประกอบอาชีพอื่น ๆ ได้อีกหรือไม่ ตนจึงยังมีความกังวลในส่วนนี้อยู่ สำหรับเรื่องเรียนของน้องตนก็พยายามที่จะติดต่อ โดยมีท่านดร.แก้วเข้ามาช่วยเหลือก็ทำให้อุ่นใจมากขึ้น ด้านกฎหมายก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบติดต่อเข้ามาดำเนินการให้หลังจากที่ท่านดร.แก้วเข้ามาช่วยเหลือ หลังเกิดเรื่องมีทางขสมก. ช่วยเงินมาจำนวน 10,000 บาท หลังจากนั้นยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม ในส่วนของน้องตนรู้สึกกังวล เพราะต้องหยุดเรียนถึง 5 เดือน กลัวว่าจะเรียนช้ากว่าคนอื่น เพราะหยุดนานแบบนี้ก็เสียเวลาในการเรียน ต้องขอบคุณท่านดร.แก้วที่เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย นายพงษธร กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกว่ายังเดินไม่ค่อยคล่องตัว ยังรู้สึกเจ็บอยู่ วันเกิดเหตุล้มไปโดนช่วงขาและลำตัว เพราะขาซ้ายเข้าไปอยู่ในล้อทำให้มีอวัยวะฉีก ขาเป็นแผลเพราะถูกับพื้นถนน กระดูกข้อเท้าหักซี่ด้านหลัง หมอแจ้งว่าหลังจากหายแล้วเดินได้แน่แต่ไม่มั่นใจว่าจะสามารถรับน้ำหนักผู้โดยสารได้เท่าเดิมหรือไม่ ตลอดระยะเวลา 5 เดือนตนเสียรายได้ ไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้เลย สำหรับค่ารักษาพยาบาลประกันของรถเมล์จ่ายให้กับทางโรงพยาบาล แต่ส่วนอื่นตนไม่ได้รับการชดเชยอะไร ตนอยากให้เข้ามารับผิดชอบดูแล ตลอดระยะเวลา 5 เดือนกว่าตนมีทุกข์อย่างไรบ้าง ลูกสาวก็ไม่ได้ไปโรงเรียน ตนก็ไม่มีเงินจะกิน ต้องมาอาศัยให้ลูกสาวคนโตช่วย ลำบากทั้งครอบครัว หากลูกสาวคนโตไม่ช่วยก็เหมือนหมาตัวนึง อยากให้มีน้ำใจเข้ามาช่วยเหลือ ช่วงระหว่างที่พักฟื้นไม่มีหน่วยงานหรือใครเข้ามาเยี่ยม ไม่มีแม้แต่เงา แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปพูดคุยเรื่องประกันยังพาใครมาพูดคุยไม่รู้เรื่อง ตนเคยถามไปว่าเงิน 200,000 บาท ที่จะชดใช้มีค่าอะไรบ้าง ทางประกันไม่สามารถตอบได้ แต่สำหรับตนสามารถจัดการค่าใช้จ่ายให้กับทางประกันได้ทุกอย่าง ตอนนี้ยังรอเงิน 200,000 บาทอยู่ เขาบอกว่าหากตนอยากได้มากกว่านี้ให้ไปฟ้องร้อง ตนเป็นแค่ประชาชนธรรมดาไม่ค่อยรู้เรื่องตรงนี้เท่าไหร่ เพียงแต่มีอาชีพทำมาหากินสุจริต ขอบคุณท่านดร.แก้วที่เข้ามาช่วยเหลือ และคิดว่าเรื่องจะเดินหน้าต่อไป คงไม่หยุดเท่านี้ ความเป็นธรรมยังมีอยู่ ถ้าไม่มีสื่อเข้ามาช่วยเหลือตนคงไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นวันนี้ ด.ญ.ศศิภา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รับบาดเจ็บไหปลาร้าหัก ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว แต่หากจะกลับไปเรียนได้ต้องรอพ่อหายดีก่อน
เพราะพ่อต้องขี่รถจยย.ไปส่ง นายชัยเมศร์ หรือดร.แก้ว กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้รับการร้องเรียนว่ามีชาวบ้านในจังหวัดนนทบุรีประสบอุบัติเหตุ และได้รับความเดือดร้อน จึงเข้ามาลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า 1.การเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก 2.คู่กรณีไม่เข้ามาช่วยเหลือ เยียวยา 3.การดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้ได้ช่วยประสานไปทุกภาคส่วนแล้ว สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เร่งดำเนินการทันที ดูจากทั่วไปคาดว่าคดีไม่ล่าช้า ส่วนการเยียวยาต้องดูว่าผู้เสียหายต้องการให้ช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ทราบมาว่าน้องที่บาดเจ็บหยุดเรียนมานานมาก รู้สึกตกใจ แต่เป็นเหตุจำเป็น ทางโรงเรียนน่าจะสามารถช่วยเหลือได้ สำหรับกรณีนี้ถือว่าสาหัส เพราะไม่สามารถทำมาหากินได้ตลอดระยะเวลา 5 เดือน ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดดำเนินการให้อยู่ เดี๋ยวต้องให้ผู้เสียหายไปให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อเชิญคู่กรณีมาดำเนินการขั้นต่อไป ตอนนี้ติดขัดที่ไม่สามารถพูดคุยกับคู่กรณีเพื่อไกล่เกลี่ยได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อส่งฟ้อง ต้องรอดูว่าทางขสมก.ขึ้นกับหน่วยงานใด รถที่ชนขึ้นที่เขตไหน ตนคาดว่าค่าจะชดเชยได้มากกว่านี้ เพราะผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส คนขับขี่ก็เป็นลูกจ้างของทางขสมก. แน่นอน ตามความผิดคดีอาญามีกำหนดไว้แล้วว่านายจ้างต้องรับผิดชอบร่วมด้วย ในกรณีลูกจ้างรับผิดชอบไม่ได้ เพราะเหตุเกิดในขณะทำงานให้กับนายจ้าง
อ่านแล้ว8132 times!