ตายน้ำตื้น โจรย่องตัดสายไฟเดินกลบรอยเท้าอย่างดี สุดท้ายเกมส์เพราะชื่อตัวเองติดข้างรถ

ภาพกล้องวงจรปิดในไซด์งานก่อสร้างคอดโดแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง สามารถจับภาพคนร้ายจำนวน 4 คน ใส่ชุดสีดำทั้งเดินย่อง ทั้งคลานเข้าหลบตามจุดที่พอจะเป็นกำบังได้คล้ายการฝึกทางยุทธวิธีของหน่วยรบ


จากนั้นจะเห็นกลุ่มคนร้ายช่วยเข็นโรลสายไฟม้วน ไปมุมมืดหลังอาคาร จากนั้นจะเก็น 1 ในคนร้ายเดินใช้เท้าเขี่ยทรายลบรอยเท้าที่อยู่บนพื้นออก จากนั้นคนร้ายได้ขับรถกระบะผ่านกล้องหน้าไซด์งานหลบหนีไป เหตุการเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา



ล่าสุดมีรายงานว่าฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ได้จับกุมกลุ่มคนร้ายรายนี้ได้ 3 คน ประกอบด้วยนายอนุพงษ์ หรือเต้ย โพธิจร อายุ 24 ปี นายจักรพล หรือโจ้ จำรัสรัก อายุ 22 ปี นายจิระวัฒน์ หรือรัก สถิตธนะพันธุ์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ความผิดฐาน “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด “ พร้อมของกลางรถกระบะ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ขส 1018 กทม. ที่ใช้ก่อเหตุ โดยจับกุมได้ภายในไซด์งานก่อสร้างคอนโดที่ทำงานอยู่




การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ามีเหตุลักทรัพย์สายไฟที่ไซด์คนงานก่อสร้างคอนโด ริมถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง จำนวนหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมืองได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดพื้นที่ใกล้เคียงมาโดยตลอด กระทั่งทราบว่ากลุ่มคนร้ายรายนี้มีด้วยกัน 4 คน และใช้รถกระบะสีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นยานพาหนะ ซึ่งด้านข้างรถติดสติ๊กเกอร์ข้อความ Anupong Phothijhon และจากแนวทางการสืบสวนทราบว่ารถที่ใช้ก่อเหตุเป็นของคนงานในไซด์งานก่อสร้างของผู้เสียหายเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ
กระทั่งวันนี้ได้รับแจ้งว่านายจิระวัฒน์ หรือ รัก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับนี้กำลังทำงานอยู่บนชั้น 8 ไซด์งานก่อสร้างสถานที่จับกุม เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบจนพบตัวก่อนจะสามารถติดตามจับผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 คน



เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนยอมรับว่าร่วมกับผู้ต้องหาอีก 1 คน ซึ่งทั้งหมดทำงานเป็นช่างไฟของโครงการดังกล่าว แต่เงินไม่พอใช้จึงร่วมกันวางแผนในการลักตัดสายไฟในไซด์งาน โดยขับรถจอดฝั่งตรวจข้างในจุดที่ไม่มีกล้องวงจรปิด จากนั้นข้ามถนนแอบเดินเข้าไซด์งานโดยไม่ให้ รปภ.เห็น เมื่อก่อเหตุได้สายไฟมาก็จะช่วยกันขนขึ้นหลังรถกระบะที่จอดไว้จากนั้นจะเดินกลับมาใช้เท้าเกลี่ยทรายเพื่อลบรอยเท้าที่พื้นไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตุ จากนั้นจะช่วยกันนำไปเก็บที่ห้องพักแล้วแบ่งไปขายร้านรับซื้อของเก่า โดยนำไปขายมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเพิ่งเข้าไปก่อเหตุมาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม และนำไปขายได้เงินมาประมาณ 8 หมื่นหกพันบาท รวมทั้ง 3 ครั้งได้เงินร่วม 5 แสน เมื่อได้เงินมาก็จะนำไปใช้ส่วนตัว และเที่ยวแตร่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง และติดตามผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านแล้ว464 times!