ระทึก! เรือบรรทุกทรายล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา

แบ่งปันข่าวนี้ :

ระทึก! เรือบรรทุกทรายล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมีเรือเหล็กบรรทุกทราย ล่ม บริเวณหน้าร้านอาหารแอบแซ่บ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งเหตุการดังกล่าวมีพนักงานของร้านอาหาร สามารถบันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ได้ขณะที่เรือเหล็กบรรทุกทราย จำนวน 4 ลำเรือเหล็กไหลมาตามกระแสน้ำจากนั้น ไหลผ่านใต้ สะพานบ้านป้อม – ภูเขาทอง (สะพานสวนนก) เรือเหล็กบรรทุกทราย ลำแรกชนตอม่อสะพานค่อยๆจมอับปางลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา 1 ลำ ส่วนเรือเหล็กบรรทุกราย อีก3 ลำที่เหลือได้ปล่อยไหลตามกระแสน้ำมา จนกระทั่งมีพลเมืองดีช่วยน้ำเชือกดึงรั้งมาผูกไว้ได้อยู่ริมตลิ่งบริเวณหน้าวัดพระงาม ซึ่งห่างจากจุดที่เรือล่มประมาณ 500 เมตร ขณะนี้เรือลำที่ 2 ที่ อยู่บริเวณริมตลิ่งบริเวณหัวเรือค่อยๆจะจมน้ำลงไปอีกลำเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออก

สอบถาม คนขับเรือให้ข้อมูล สั้นๆว่า เรือยนต์ลากจูงที่โต้งท้ายเกิดเสีย จึงได้ตัดเชือกออก ให้เรือไหลมาตามกระแสน้ำจนมาถึงใต้สะพานสวนนก ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กิโลเมตร มีกระแสน้ำแรง พยายามจะนำเรือยนต์ พี่บังคับเรืออยู่ด้านหน้าจะเปลี่ยนไปตรงท้ายเรือ เพื่อไม่ให้เรือไหลไปกระแทกกับตอม่อ แต่ไม่ทันเนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นช่วงโค้งน้ำทำให้ เรือเหล็กบรรทุกทรายกระแทกเข้ากับตาม่อ จึงเกิดรอยร้าว จนกระทั่งทำให้เรือบรรทุกทรายจมลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา

ด้านร้อยเอก ทวีพงษ์ รินนาศักดิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อบต.บ้านป้อม ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีเรือบรรทุกทรายชนตอม่อสะพานบ้านป้อม – ภูเขาทอง (สะพานสวนนก) ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เกิดเหตุล่มบริเวณหน้าร้านอาหารแอบแซ่บ ติดวัดพระงาม ตำบลบ้านป้อม จากการตรวจสอบพบว่า เรือบรรทุกทรายมาจาก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง มุ่งหน้า อำเภอสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งต่อพ่วงมาจำนวน 4 ลำเรือเหล็ก มีเรือลากจูงจำนวน 1 ลำ และเรือดึงท้ายจำนวน 1 ลำ ระหว่างเดินทางเกิดเหตุ เรือดึงท้ายเสีย ในระหว่างก่อนลอดสะพานดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับกระแสน้ำมีความไหลเชี่ยว เป็นเหตุให้เรือเหล็กบรรทุกทรายลำที่ 1 กระแทกกับตอม่อ เกิดการแตกรั่วน้ำไหลเข้าสู่ท้องเรือ ล่มลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา 1 ลำ และลำที่ 2 เกิดรั่วจากการกระแทกดังกล่าว องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านป้อม จึงนำเครื่องสูบน้ำขนาด 3 นิ้ว 5 แรงม้า เข้าทำการสูบน้ำออกจากเรือลำที่ 2 เพื่อป้องกันการล่ม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์แล้ว มีการสั่งหยุดการเดินเรือชั่วคราวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อนแล้ว และทำการซ้อมแซมในส่วนเรือเหล็กบรรทุกทรายที่เหลือ จำนวน 3 ลำ นำมาจอดชิดรวมกันริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนเรือเหล็กบรรทุกทราย ที่จมลงในแม่น้ำเจ้าพระยาได้มีการนำทุ่นลอยน้ำไปติดตั้งทำสัญลักษณ์ไว้เรียบร้อยเตรียมดำเนินการกู้ในวันพรุ่งนี้

ต่อมา นาย พีรธร นาคสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา หลังจากรับแจ้งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที ได้เปิดเผยว่า จาการตรวจสอบพบเรือบรรทุกทรายทั้งหมดกำลังมุ่งหน้าไป จังหวัดสมุทรปราการ สาเหตุเกิดจากเรือยนต์ลากจูงดึงท้ายเกิดขัดข้อง ทำให้เรือบรรทุกทราย ทั้ง 4 ลำเสียการทรงตัว เรือยนต์ที่ลากจูงหัวขบวนพยามยามจะไปช่วยดึงท้ายแต่ไม่ทันเรือเกิดชนกับตอม่อสะพานจนเกิดรั่วน้ำไหลเข้าเรือ จมลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนเรืออีกลำมีน้ำไหลเข้าเรือได้สูบน้ำออกจากเรือได้ทันเรือไม่เกิดความเสียหาย

ตอนนี้ ได้สั่งการปิดน่านน้ำงดการเดินเรือของเรือบรรทุกสินค้า พร้อมกับออกคำสั่งให้ทางผู้ประกอบการเร่งทำการกู้เรือให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน การกู้เรือต้องทำการนำทรายออกจากตัวเรือก่อน เนื่องจากทรายมาผสมกับน้ำแล้วจะแข็งตัว ซึ่งต้องใช้เครื่องมือ รถเครนและอุปกรณ์ ในการที่จำนำทรายออกจากเรือ โดยคาดว่าเรือเก็บกู้เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครจะมาถึงในพรุ่งนี้เช้า และจะดำเนินการทันที

ศักดริน พุทธคาวี ( ต้น 089 – 886 – 2828 )

อ่านแล้ว509 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.