ป้าวัย 63 ปี สุดช้ำ นอนเฝ้าศพกลางดึก ถูกโจรแสบร้ายย่องเงียบขโมยรถจยย.กลางงานศพ เหลือเพียงลูกกุญแจดูต่างหน้า สูญเสียญาติกลับต้องมาสูญเสียรถอีก วอนตำรวจเร่งล่าตัว

กล้องวงจรปิด บันทึกภาพ คนร้าย 2 คน เป็นชาย ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาภานใน วัดโพธิ์ลำแพน หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านชุ้ง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นงานศพ จากนั้นฉวยโอกาส ขณะที่ญาติๆของคนตายที่นอนเฝ้าศพอยู่นอนหลับสนิทเข้าไปขโมยรถจักรยายนต์ ยี่ห้อ Honda Wave สีเทาหมายเลขทะเบียน 1 กภ 3459 พระนครศรีอยุธยา ที่จอดอยู่หน้าศาลาสวดศพ ออกไปอย่างหน้าตาเฉย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 03.00 น. เช้ามืด ของ วันที่ 19 มกราคม 2566 ต่อมาเช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นางประจักษ์ ยุทธศาสตร์ อายุ 63 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คืนวันเกิดเหตุ เป็นคืนสวดอภิธรรมคืนที่ 2 โดยจอดรถจักรยานยนต์ไว้บริเวณหน้าศาลาสวดอภิธรรมศพและล็อคคอเป็นอย่างดี จากนั้นก็นอนพักผ่อนบริเวณหน้าโลงศพ พร้อมญาติๆอีก 4 คน เพราะเหนื่อยล้าจากการดูแลงานศพมาทั้งวัน



กระทั่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ก็มีญาติกันลุกไปเข้าห้องน้ำก็ยังเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่ จนช่วงเช้ามืดเวลา ประมาณ 04.00 น .ต้องตื่นเพื่อจะไปตลาดจัดเตรียมซื้อของมาจัดเตรียมงานศพก็ตกใจว่ารถจักรยานยนต์หายไป จึงไปขอกล้องวงจรปิดที่วัดดูก็พบว่ามีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ลักษณะการแต่งกายของชายคนขับสวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า ส่วนชายคนซ้อนสวมเสื้อฮู้ดแขนยาว ปิดบังใบหน้า พากันขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาภายในวัด จากนั้นจอดรถจักรยานยนต์ แล้วพากันเดินตรงไปยังศาลาสวดอภิธรรมศพ จากนั้นแอบส่องดูผ่านประตูกระจกเห็นว่าคนด้านในหลับสนิท จึงสบโอกาส ลงมือขโมยรถจักรยานยนต์ของตนเองใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 1 นาที ขโมยรถออกไปได้สำเร็จจากนั้นพากันขับขี่ หลบหนี ไปตามเส้นทางมุ่งหน้า อำเภอนครหลวง หลบหนีลอยนวล


หลังเกิดเหตุ ได้นำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ไปแจ้งความ ที่ สถานีตำรวจภูธรนครหลวง อำเภอนครหลวง และขอให้ตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางประจักษ์ เล่าทั้งน้ำตา ไม่คิดว่า คนร้ายจะกล้าลงมือทำได้เช่นนี้ แม้กระทั่งภายในงานศพ ที่ญาติกำลังอยู่ในความโศกเศร้ากับการสูญเสีย แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ เป็นการตอกย้ำให้มันเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม เมื่อรถจักรยานยนต์ของ ตนเอง ถูกคนร้ายขโมยไป ทำให้ เดือดร้อนมาก เพราะ ครอบครัวของตนเองก็ไม่ได้มีฐานะอะไร กว่าจะได้มีรถจักรยานยนต์กับเขาสักคัน ก็ต้องอดมื้อกินมื้อรับจ้างทั่วไป เก็บหอม ออมริบจากเงินที่ลูกให้นำมา มาผ่อน รถจักรยานยนต์ ได้ 2 ปีแล้วเหลืออีก 1 ปีก็จะหมด แต่ก็มาถูกคนร้ายขโมยไปอย่างง่ายดายทำให้เหลือแต่ลูกกุญแจไว้ดูต่างหน้า ซึ่งตอนนี้ตนเองเครียดมากรู้สึกเสียดาย รถที่ถูกขโมยไป
อ่านแล้ว122 times!