พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีต รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพล ถวายเป็นพระราชกุศล วันพ่อแห่งชาติ

แบ่งปันข่าวนี้ :

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีต รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพล ถวายเป็นพระราชกุศล วันพ่อแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ 5 รูป โดยได้รับความเมตตตาจาก“พระสุธีรัตนบัณฑิต” เจ้าอาวาสวัดสุทธิฯ เดินทางมารับกิจนิมนต์ในพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพล ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องใน วันพ่อแห่งชาติ โดยภายในงานยังมีกิจกรรม “โรงทาน กินอาหารฟรี” ณ ร้านข้าวแกงร้อยหม้อ นายรัฐณกรณ์ อมรวีระวัฒน์ (ชาติพยัคฆ์) ผอ.สำนักข่าวฮอตนิวส์ไทยแลนด์ – ผู้อำนวยการ สื่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด – อุปนายกสมาคม ช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล กล่าวว่า วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ ตนพร้อมครอบครัว ตระหนักถึงความสำคัญของวันดังกล่าว จึงได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรม “โรงทาน กินอาหารฟรี” ณ ร้านข้าวแกงร้อยหม้อ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และได้ร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ซื่งปีนี้มีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดี และร่วมถวายภัตตาหารเพล อาทิ นายอนันต์ นาเอนก , นภัสสร โตมิตะ , รักษ์ ไพรวัลย์ , พี่มาลัย , สุพรรณ สันติชัย , สายัณห์ ลายไทย และศิลปินนักร้องอีกมากมายมาร่วมขับกล่อมเสียงเพลงไพเราะ น้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ
ด้าน พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนรู้สึกดีใจ ที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดีๆในครั้งนี้ ได้เห็นประชาชนคนไทยร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการทำกิจกรรมครังนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคี มีความสุข แสดงออกถึงความจงรักภักดี และความกตัญญูกตเวทิตา ตลอดจนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ขอน้อมนำพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ความว่า “การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลังในการสร้างเสริมและสะสมความดี” ไปใช้ในการปฏิบัติงานและชีวิตประจำวัน ตลอดจนมุ่งพัฒนาตนเอง ให้มีจิตอาสา และบำเพ็ญตนให้เกิดประโยชน์ แก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติ สืบไป

อ่านแล้ว737 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.